Author: admin

CONNEXT ED

ความเป็นมาของโครงการ

โครงการโรงเรียนประชารัฐ เป็นโครงการที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 จากนโยบายการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชารัฐ เพื่อเศรษฐกิจฐานรากผ่านการรวมพลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนผ่านทางการดำเนินงานของคณะทำงานสานพลังประชารัฐ โดยกระทรวงศึกษาธิการในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการศึกษาขอประเทศและเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนร่วมกับคณะทำงานสานพลังประชารัฐ 2 คณะ ได้แก่ E2 การยกระดับคุณภาพวิชาชีพ ร่วมกับ และ E5 การศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ โดยกระทรวงศึกษาธิการ มอบหมายให้องค์กรหลัก 2 แห่งดำเนินการร่วมกับคณะทำงานดังกล่าว โดย E2 ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)และ E5 ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดย สพฐ. ได้จัดทำโครงการโรงเรียนประชารัฐ และจัดทำบันทึกข้อตกลงสานพลังประชารัฐ ด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ ระหว่างภาครัฐ   3 หน่วยงาน (กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) ภาคเอกชน 19 หน่วยงาน และภาคประชาสังคม 4 คน เพื่อร่วมขับเคลื่อนและยกระดับการศึกษาของประเทศไทย ซึ่งจุดเน้นการพัฒนาโรงเรียนให้มีคุณภาพผ่านความร่วมมือทุกภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐที่จะสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน และหลักสูตร  ภาคเอกชนให้การสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี เสริมทักษะวิชาการ และทักษะอาชีพ และภาคประชาสังคม ให้การสนับสนุนเกี่ยวกับกรอบแนวคิดในการพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา ปัจจุบันโครงการโรงเรียนประชารัฐได้ปรับเปลี่ยนชื่อโครงการโรงเรียนประชารัฐ เป็นโครงการคอนเน็กซ์อีดี ประกอบด้วย 3 กลุ่มเป้าหมาย คือ

  1. โรงเรียนประชารัฐ รุ่น 1 – 3 ซึ่งเป็นโครงการ เกิดขึ้นจากนโยบายการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก โดยเป็นการรวมพลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนผ่านการดำเนินงานของ ๑๒ คณะทำงานสานพลังประชารัฐ โดยกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการศึกษาของประเทศและเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนร่วมกับคณะทำงานสานพลังประชารัฐ 2 คณะ ได้แก่ E2 การยกระดับคุณภาพวิชาชีพ ร่วมกับ E5 การศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ
  2. กลุ่มโรงเรียนในอุปถัมภ์ของภาคเอกชน รุ่น 1 – 2 เป็นโรงเรียนที่ได้รับการสนับสนุนการดำเนินงานและกิจกรรมการจัดการเรียนรู้จากภาคเอกชน
  3. กลุ่มโรงเรียนกองทุนการศึกษา เป็นโรงเรียนที่ดำเนินงานเพื่อพัฒนาการศึกษาและคุณธรรมจริยธรรมให้แก่เด็กนักเรียน โดยได้พระราชทานเงินส่วนพระองค์ เพื่อนำไปช่วยเหลือสถานศึกษา โดยสนับสนุนเด็กนักเรียนที่ยากจน แต่มีความประพฤติดีให้ได้รับทุนพระราชทาน ได้มีโอกาสทางการศึกษาจนประกอบอาชีพได้ และสร้างความพร้อมด้านกายภาพให้แก่โรงเรียน สร้างจิตสำนึกให้ครูรักนักเรียนให้นักเรียนรักครู

โดยมียอดรวมทั้งสิ้น 5,567 โรงเรียน โดยเป็นโรงเรียนในสังกัด สพฐ. 5,543 โรงเรียน

ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามด้านล่างนี้

หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อไปตามช่องทางข้างล่างนี้

การประชุมชี้แจงการดำเนินงานและทิศทางของ “โครงการคอนเน็กซ์อีดี” สำหรับคณะทำงานโครงการคอนเน็กซ์อีดี ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มอบหมาย นายอโณทัย ไทยวรรณศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา เป็นประธานในการประชุมชี้แจงการดำเนินงานและทิศทางของ “โครงการคอนเน็กซ์อีดี” สำหรับคณะทำงานโครงการคอนเน็กซ์อีดี ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผ่านระบบ Conference พร้อมทั้งผู้แทนจากภาคเอกชน นำโดย นางสาวกรกช นาวานุเคราะห์ จากบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และคณะ ในวันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 13.30 – 16.30 น. ชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินงาน และบทบาทหน้าที่ของคณะทำงานโครงการคอนเน็กซ์อีดี ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในการกำกับ นิเทศ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานของโรงเรียน ภายใต้โครงการคอนเน็กซ์อีดี ตลอดจนการสนับสนุนการปฏิบัติงานร่วมกับผู้นำ (School Partner) หรือคณะทำงานจากภาคเอกชน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ

เส้นใยแก้วนำแสง

Quisque purus erat, pellentesque sit amet lacus eu, condimentum elementum nibh. Nullam at lectus sodales, ornare leo in, imperdiet lacus. Vestibulum aliquet augue nunc. Praesent vitae nibh ac erat fringilla varius. Vivamus nisi mi, suscipit vel nibh ac, tincidunt dictum dolor. Vivamus pharetra tincidunt tortor sit amet dignissim. Mauris dignissim risus ut risus volutpat rhoncus. Duis eget quam luctus, dignissim erat eu, consectetur tellus. Pellentesque nec risus ac justo bibendum tincidunt quis at enim. Duis convallis aliquet purus euismod finibus. Mauris sit amet ipsum eleifend, eleifend elit blandit, tempus augue. Duis porta risus ac eros tempus, id sollicitudin urna venenatis. Sed dapibus rhoncus sodales. In hac habitasse platea dictumst. In sed laoreet eros, eu mattis erat. Donec ut libero at velit porta porta ut et risus.

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Quisque sed mattis velit. Donec vehicula, lectus sit amet finibus scelerisque, leo mauris scelerisque ligula, eu luctus neque justo pulvinar sem. Morbi faucibus lobortis quam, sed egestas tellus imperdiet sed.

Morbi placerat elit fermentum, cursus tellus id, congue metus. Phasellus elementum sodales lacus, id facilisis justo. Nulla at blandit erat. Curabitur finibus at sem ut ultrices. Morbi tellus felis, consectetur ac mi sed, laoreet facilisis ipsum. Integer sit amet tortor finibus felis tristique congue eget eu massa. Suspendisse potenti. Aenean eu iaculis ex. Morbi accumsan turpis eu ligula auctor euismod. Nam sit amet imperdiet ipsum. Vestibulum cursus sapien ipsum, eu vestibulum tortor farer vulputate.

Aenean in diam nec odio blandit egestas et aliquam orci. Praesent vitae vestibulum nibh. Aliquam rutrum viverra ligula non placerat. Sed iaculis scelerisque velit ut lacinia. Vestibulum maximus quam ante, at efficitur mi vulputate non. Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Proin eleifend neque sed nisl hendrerit dignissim. Pellentesque faucibus, mi eget tincidunt efficitur, libero tellus ullamcorper urna, ac vulputate arcu libero hendrerit neque. Fusce ac mauris ut nulla ornare viverra.

Morbi quis turpis hendrerit, egestas urna vel, cursus magna. Aenean posuere nibh id risus viverra volutpat. Maecenas justo libero, imperdiet ac bibendum a, sodales at mi. Praesent sit amet massa at leo gravida vestibulum. Donec sed gravida sapien. Fusce tempus rutrum massa, nec volutpat libero fringilla scelerisque. Donec tellus nulla, tristique eu urna rutrum, laoreet suscipit leo. Orci varius natoque penatibus et magnis dis parturient montes, nascetur ridiculus mus. Sed non pulvinar ipsum. Morbi nec felis id velit vehicula sagittis. Proin vestibulum gravida est. Etiam vel hendrerit neque, ut luctus enim. Morbi pharetra congue velit ac facilisis. Nunc eros nibh, bibendum eu faucibus id, iaculis vitae lectus. Quisque eu consequat risus. Aenean scelerisque nisi nec egestas ornare.

เข้าร่วมงานพิธีรับมอบหนังสือในโครงการ “หนังสือเพื่อชีวิตและจินตนาการ” โดย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัท สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น จำกัด โครงการงานมอบหนังสือเป็นตัวแทน

ดร.อโณทัย ไทยวรรณศรี ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา มอบหมายให้กลุ่มงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการบริหาร เข้าร่วมงานพิธีรับมอบหนังสือในโครงการ “หนังสือเพื่อชีวิตและจินตนาการ” โดย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัท สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น จำกัด ร่วมมือกันจัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น และได้บริจาคหนังสือชุด “Good Habits Series” เป็นนิทานสองภาษา (Bilingual) คือ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เหมาะสำหรับเด็กและเยาวชน และคัดสรรหนังสือชุด “บ้านเล็กในป่าใหญ่” เป็นวรรณกรรมเยาวชนยอดเยี่ยมตลอดกาล ซึ่งเป็นหนังสือที่มีคุณภาพที่ผลิตและสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนหนังสือในห้องสมุด สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 400 โรงเรียน มูลค่าแห่งละ 17,500 บาท รวมมูลค่า 7,000,000 บาท โดยมี ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานในการรับมอบหนังสือดังกล่าว พร้อมทั้งมีผู้อำนวยการโรงเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมเป็นเกียรติเข้าร่วมงานทาง online ผ่านระบบ ZOOM ในวันอังคารที่ 19 มกราคม 2564 เวลา 09.30 น. – 11.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 30 ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ (สีลม)

โครงการนำร่องศึกษาดูงานสถานีโทรมาตรอัตโนมัติฯ และการบริหารจัดการน้ำชุมชนอย่างยั่งยืน ครั้งที่ 1/2564

วันที่ 12 มกราคม 2564  เวลา 14.00 – 15.00 น. ดร.อโณทัย  ไทยวรรณศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา และ ดร.ธัญนันท์ แก้วเกิด และบุคลากร กลุ่ม คพศ. ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการดำเนินโครงการนำร่องศึกษาดูงานสถานีโทรมาตรอัตโนมัติฯ และการบริหารจัดการน้ำชุมชนอย่างยั่งยืน ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบออนไลน์ มีวาระในการพิจารณาปรับแผนการดำเนินงานและรูปแบบการดำเนินโครงการฯ เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19  โดยจัดกิจกรรมศึกษาเรียนรู้ในรูปแบบออนไลน์ พื้นที่ศึกษาได้แก่

  • ภาคเหนือ ชุมชนเครือข่ายลุ่มน้ำแม่ละอุป อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชุมชนป่าภูถ้ำ – ภูกระแต อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น
  • ภาคใต้ เครือข่ายอนุรักษ์ฟื้นฟูภูมินิเวศลุ่มน้ำคลองยัน จ.สุราษฏร์ธานี

การพิจารณาเยาวชนเข้าร่วมโครงการ :
1. เยาวชนอายุระหว่าง 12-25 ปี
2. เป็นเยาวชนในพื้นที่ ระดับอ าเภอ โดยจัดกิจกรรมกลุ่มขนาดเล็กไม่เกิน 20 คน
3. เยาวชนที่มีความถนัดหรือสนใจด้านสังคม สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีและนวัตกรรม หรืออื่นๆ
4. มีประสบการณ์ในการท างานเพื่อสังคม มีจิตอาสา (ได้รับการรับรอง)
5. มีความสนใจ เรียนรู้ พัฒนา เพื่อเป็นเครือข่ายเยาวชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ)

 

 

การประชุมปฏิบัติการจัดทำเอกสารรายงานการดำเนินงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 และแนวทางการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) เพื่อพัฒนาสมรรถนะพลเมืองรุ่นใหม่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 กลุ่มวิจัยและส่งเสริมการวิจัยทางการศึกษา สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา
นำโดย นางสาวดุจดาว  ทิพย์มาตย์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและส่งเสริมการวิจัยทางการศึกษา และคณะ ได้ดำเนินการจัดประชุมปฏิบัติการจัดทำเอกสารรายงานการดำเนินงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 และแนวทางการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) เพื่อพัฒนาสมรรถนะพลเมือง
รุ่นใหม่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ระหว่างวันที่ 21 – 24 ธันวาคม 2563 ณ โรงแรมบียอนด์ สวีท เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ในการประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจากท่านรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา) ซึ่งได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมและบรรยายพิเศษในหัวข้อเรื่อง จุดเน้นการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยกิจกรรมการประชุมประกอบด้วยการนำเสนอรายงานการดำเนินงานโครงการส่งเสริมโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) เพื่อพัฒนาสมรรถนะพลเมืองรุ่นใหม่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 รุ่นที่ 1 และการวางกรอบแนวทางการดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) เพื่อพัฒนาสมรรถนะพลเมืองรุ่นใหม่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 รุ่นที่ 2 : โรงเรียนคุณภาพประจำชุมชน พร้อมทั้งมีการเติมเต็มกระบวนการส่งเสริมโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้และทักษะการชี้แนะ Coaching and Mentoring  โดยท่าน รศ.ดร.สิริพันธุ์  สุวรรณมรรคา ข้าราชการบำนาญ (ผอ.ศูนย์พัฒนาการเรียนรู้และวิชาชีพครู จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย) และมีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับถอดบทเรียนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือรวมพลัง โดยใช้กระบวนการ Lesson Study ของโรงเรียนในจังหวัดขอนแก่น โดย  นางสาวพรพิมล ทักษะวรบุตร  ข้าราชการบำนาญ (ศึกษานิเทศก์ สพป.ขอนแก่น เขต ๑) การจัดกิจกรรมการพัฒนาคุณลักษณะผู้เรียน โดย  นางบรรเจอดพร  สู่แสนสุข รองผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา  การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาความเป็นพลเมือง และนวัตกร โดย นางสาวสมพร  สามทองกล่ำ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนการสอน สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา และมีการแบ่งกลุ่มปฏิบัติการเผยแพร่การดำเนินงานโครงการส่งเสริมโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) เพื่อพัฒนาสมรรถนะพลเมืองรุ่นใหม่ บนเว็บไซต์โครงการ www.slcobec.net โดย นายพิทักษ์เกียรติ บรรเทา  ผอ.รร.อุดมพัฒนศึกษา สพม. เขต 22 นอกจากนี้ในวันสุดท้ายของการประชุมได้รับเกียรติจากท่านเบญจลักษณ์  น้ำฟ้า ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งได้บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิรูปโรงเรียนผ่านนวัตกรรมการพัฒนาโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ และให้กำลังใจแก่ผู้เข้าร่วมประชุมในการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการส่งเสริมโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) เพื่อพัฒนาสมรรถนะพลเมืองรุ่นใหม่ ให้ประสบควมสำเร็จในการดำเนิน

ประชุมหารือเรื่องกรอบมาตรฐานการจัดกิจกรรมแข่งขันหุ่นยนต์

วันที่ 21 ธันวาคม 2563 เวลา 09.09 น.

ดร.อโณทัย  ไทยวรรณศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษารักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน ร่วมหารือกับ ผู้แทน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ในเรื่องกรอบมาตรฐานการจัดกิจกรรมแข่งขันหุ่นยนต์  ณ ห้องประชุมสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา อาคาร สพฐ. 5 ชั้น 10 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ กำหนดกรอบมาตรฐานการจัดกิจกรรมแข่งขันหุ่นยนต์ เพื่อให้หน่วยงานผู้จัดกิจกรรมการแข่งขันหุ่นยนต์มีมาตรฐาน ผู้ให้การสนับสนุนจะได้มีแนวทางในการพิจารณาให้การสนับสนุน ทั้งนี้  โดยศึกษาจากเกณฑ์การจัดการแข่งขันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยกำหนดระยะเวลาให้ทันในภาคการศึกษาหน้า (พ.ค. 64)

ผู้เข้าร่วมหาประกอบด้วยผู้แทนจาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)  ดังนี้

ดร.อโณทัย  ไทยวรรณศรี

ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษารักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน สพฐ.

ดร.วรวรงค์  รักเรืองเดช

ผู้ช่วยผู้อำนวยการ   สสวท.

ดร.ศรเทพ  วรรณรัตน์

ผู้อำนวยการสำนักวิชาคณิตศาสตร์และเทคโนโลยี  สสวท.

ดร.ธัญนันท์  แก้วเกิด

ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการพิเศษ  สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สพฐ.

นายพรพจน์  พัฒวันเพ็ญ

ผู้เชี่ยวชาญ สสวท.

นางสาวพรพิมล  ตั้งชัยสิน

ผู้ชำนาญ สสวท.

นายนิรมิษ  เพียรประเสริฐ

นักวิชาการ สสวท.

นายพรชัย  ถาวรนาน

นักวิชาการศึกษา สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สพฐ.

 

ผู้แทน สสวท. กล่าว การดำเนินการแข่งขันหุ่นยนต์ในระดับนักเรียน เป็นกิจกรรมที่แข่งขันนอกหลักสูตรแต่สามารถขับเคลื่อนได้เร็ว และสร้างแรงจูงใจของนักเรียนได้ ที่ผ่านการแข่งขันหุ่นยนต์จะมีความหลากหลาย จึงเสนอให้กำหนด กรอบมาตรฐานการจัดกิจกรรมแข่งขันหุ่นยนต์เป็นการแข่งขันทางวิชาการให้มากขึ้น  การดำเนินงานในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดจากการดำเนินงานการแข่งขันหุ่นยนต์ที่มีอยู่แล้ว สำหรับการดำเนินงานต่อไป จะแต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อพิจารณากรอบมาตรฐานการจัดกิจกรรมแข่งขันหุ่นยนต์ และให้ผู้เชี่ยวชาญ พิจารณา  เมื่อดำเนินการจัดทำกรอบมาตรฐานการจัดกิจกรรมแข่งขันหุ่นยนต์เรียบร้อยแล้ว จะเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศเป็นมาตรฐานการจัดกิจกรรมแข่งขันหุ่นยนต์ต่อไป

การประชุมสังเคราะห์งานในระยะที่ 1 และพัฒนางานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านการบริหารจัดการศึกษาสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา ระยะที่ 2

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2563 กลุ่มวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการบริหาร (วนบ.) สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สพฐ. นำโดย ดร.มัลลวีร์ รอชโฟล ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการบริหาร และคณะ ได้จัดการประชุมสังเคราะห์งานในระยะที่ 1 และพัฒนางานวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ด้านการบริหารจัดการศึกษาสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา ระยะที่ 2 ระหว่างวันที่ 16 – 18 ธันวาคม 2563 ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปผลการดำเนินงานของกิจกรรมในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 และวางแผนการดำเนินงานกิจกรรมในปีงบประมาณ 2564

เปิดรับข้อเสนอโครงการ การพัฒนานวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์แนวคิดใหม่ และภาพวาดจินตนาการอนาคต

เปิดรับข้อเสนอโครงการ การพัฒนานวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์แนวคิดใหม่ และภาพวาดจินตนาการอนาคต ภายใต้หัวข้อ Inventions for Sustainable Development Project
ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 ม.ค. 2564 สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://obecyounginventor.innoobec-project.com/

ประชุมทางไกล VIDEO CONFERENCE การบริหารจัดการโรงเรียนคุณภาพของชุมชนและโรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง

วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม DOC อาคาร สพฐ. 5 ชั้น 9 ท่าน ดร.อโณทัย ไทยวรรณศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน เข้าร่วมประชุมทางไกล ผ่าน VIDEO CONFERENCE การบริหารจัดการโรงเรียนคุณภาพของชุมชน และโรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 225 เขต โดยมีท่าน ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานในการประชุม เพื่อชี้แจง แนวทางการจัดทำแผนที่และการส่งแผนที่เพื่อเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการโรงเรียนให้มีคุณภาพ โดยมีแนวทางการจัดทำเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของจังหวัดไว้ 3 แนวทาง คือ  1. ทำโรงเรียนให้มีคุณภาพของชุมชน 2. การยกระดับการศึกษา เพิ่มงบลงทุนสำหรับโรงเรียนที่สามารถดำรงอยู่ได้ด้วยตนเอง Stand alone และโรงเรียนขนาดกลาง และ 3. การพัฒนาโรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง  จากแนวความคิดในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาของประเทศให้ดียิ่งขึ้น การกำกับติดตามและประสานงานจากกำหนดระยะเวลาที่ได้ให้เขตพื้นที่ดำเนินการ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 นั้น พบปัญหา หลายประการในการดำเนินการ เช่น การจัดทำแผนที่ในการดำเนินงาน การกำหนดสัญลักษณ์ การใช้สีแต่ละจุดในพื้นที่  ซึ่งแต่ละสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาดำเนินงานและจัดทำมาไม่เหมือนกัน จึงเป็นปัญหาเมื่อส่งมาที่ส่วนกลาง ทาง สพฐ. จึงมีแนวทางในการจัดทำเพื่อให้เป็นแนวทางเดียวกันทุกเขต โดยท่าน ดร.อโณทัย ไทยวรรณศรี ได้นำเสนอแนวทางการจัดทำแผนที่ แนวทางการจัดทำ ได้กำหนดไว้ 2 รูปแบบ คือ

  1. พื้นที่จังหวัด ซึ่งต้องจัดทำ 77 จังหวัด มีผู้รับผิดชอบคือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (จังหวัด) เขต 1 เป็นผู้รวบรวมในนามจังหวัด และ สพม. ใดครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัดให้แยกเป็นจังหวัด
  2. พื้นที่เขตการศึกษา จำนวน 225 เขต ผู้รับผิดชอบ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

รายละเอียดการจัดทำแผนที่สถานศึกษา โดยให้จัดทำเป็นไฟล์รูปภาพ ใช้ โปรแกรม Adobe Photoshop  ซึ่งเมื่อนำเข้าโรงพิมพ์แล้วจะทำให้ขนาดและความละเอียดไม่แตกและมีความเสถียรกว่า โดยกำหนดขนาดของภาพ ตั้งค่าหน้ากระดาษ แนวนอน ขนาด A1 หรือ 23.4 x 33.1 นิ้ว กำหนดค่าความละเอียด 200 Pixels เมื่อบันทึกภาพ เป็นไฟล์สองรูปแบบซึ่งดูจากตัวอย่างของ สพฐ. ได้แก่ ไฟล์ของจังหวัด และไฟล์ของพื้นที่เขตการศึกษา ต้องใช้สัญลักษณ์หมุดสี
ขนาดเส้นถนน รูปแบบ/ชนิด/ขนาดอักษร ตามที่กำหนดในไฟล์ตัวอย่างเท่านั้น ดูตัวอย่างจาก คิวอาร์โค้ดที่ส่วนกลางกำหนดการบันทึกไฟล์ มีจำนวน 2 นามสกุล ได้แก่ 1.  นามสกุล PSD (*.PSD, *PDD) Adobe photoshop สามารถปรับแก้ไขได้ 2. นามสกุล PNG, (*PNG, *PNS) รูปภาพ สามารถนำเสนอได้และได้กำหนดส่งแผนที่ดังกล่าวในวันที่ 19 ธันวาคม 2563 เพื่อส่วนกลางจะได้ดำเนินการในขั้นตอนต่อไป