สพฐ. ประชุมปฏิบัติการจัดทำแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร และกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการประชุมวิชาการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ ประจำปี 2564

วันที่ 23 ธันวาคม 2564 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานในการประชุมปฏิบัติการจัดทำแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร และกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการประชุมวิชาการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2564 โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สมเกียรติ ชอบผล ประจำสำนักพระราชวังพิเศษ ระดับ 10 สำนักงานโครงการสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี บรรยายพิเศษเรื่อง “การจัดการศึกษาตามโครงการพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัดนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” พร้อมด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนในโครงการกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี รวมถึงผู้รับผิดชอบโรงเรียนในโครงกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารฯ ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เข้าร่วมการประชุม ณ โรงแรมคุ้มภูคำ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่

นายอัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานโรงเรียนในโครงการกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารฯ จึงมุ่งส่งเสริม สนับสนุน และติดตามการจัดการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง ตามวัตถุประสงค์ 6 ประการ ได้แก่ 1) ส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยของเด็กและเยาวชนตั้งแต่ในครรภ์มารดา 2) ส่งเสริมและสนับสนุนการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชน 3) เสริมสร้างศักยภาพของเด็กและเยาวชนในการเรียนรู้ทางวิชาการ 4) เสริมสร้างศักยภาพของเด็กและเยาวชนทางการอาชีพ 5) ปลูกฝังจิตสำนึกและพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ 6) เสริมสร้างศักยภาพของเด็กและเยาวชนในการอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น

จากการดำเนินงานที่ผ่านมา สพฐ. โดยสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา ได้ดำเนินงานพัฒนาโรงเรียนในโครงการกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนทุรกันดาร (กพด.) จำนวน 190 โรงเรียน ทั่วประเทศ เป็นกลุ่มโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ตามตัวชี้วัด 6 ด้าน ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารดามพระราชดำริฯ ฉบับที่ 5 สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) และเพื่อให้การดำเนินการโครงการเป็นไปตามแผนปฏิบัติราชการของ สพฐ. และบรรลุตามวัตถุประสงค์ของกลุ่มโรงเรียน อีกทั้งเพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารสถานศึกษา และสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และผู้เกี่ยวข้อง จึงได้จัดกิจกรรม ดังนี้

  1. การประชุมปฏิบัติการจัดทำแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 190 คน และผู้รับผิดชอบโครงการจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 47 เขต รวมทั้งสิ้น 237 คน
  2. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการประชุมวิชาการการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2564
  3. การจัดนิทรรศการของโรงเรียนที่ชนะเลิศแนวปฏิบัติที่ดีรายด้านของ สพฐ. ในการประชุมวิชาการการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2564 โดยโรงเรียนบ้านเขาส่องกล้อง สังกัดสำนักงานเขดพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก
  4. การเฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัดนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ สำหรับผู้บริหารและผู้ได้รับพระราชทานเกียรติบัตร จำนวน 40คน และผู้เข้าร่วมรับเสด็จ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในระบบ Zoom Meeting โดยรวมแล้วมีผู้เข้าร่วมการประชุมฯ และร่วมกิจกรรม จำนวนทั้งสิ้น 370 คน

“ทั้งนี้ ในการประชุมและจัดกิจกรรมครั้งนี้ ยังได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรผู้ทรงความรู้และประสบการณ์เกี่ยวข้องกับโรงเรียนในโครงการกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารฯ มาให้ความรู้ความเข้าใจในการจัดทำแผนพัฒนาโรงเรียนในโครงการการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัดนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ของ สพฐ. ซึ่งคาดว่าผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนจะได้รับความรู้จากวิทยากรและประสบการณ์ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อนำไปพัฒนาโรงเรียนในพื้นที่ของตนเองต่อไป” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

https://www.obec.go.th/archives/544133

https://www.facebook.com/obec.pr/posts/1514880155549128

Message us