ดร.อโณทัย ไทยวรรณศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา ได้มอบหมายให้ ดร.สมพร สามทองกล่ำ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนการสอน และนางสาวฉัตรญาดา สืบสาย นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานถอดบทเรียนโรงเรียนต้นแบบ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ : Active Learning ระหว่างวันที่ 12-16 ธันวาคม พ.ศ.2562 ณ โรงแรมบียอนด์ สวีท กรุงเทพมหานคร โดยมีโรงเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเป็นวัตถุประสงค์เพื่อถอดบทเรียนโรงเรียนต้นแบบ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ : Active Learning ระดับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 20 โรงเรียน โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้ (1) ระดับประถมศึกษา จำนวน 7 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านกลูบี สพป.นราธิวาศ เขต 2 โรงเรียนวัดดอนโพธิ์ทอง สพป.สุพรรณบุรี เขต 1 โรงเรียนบ้านแม่สวรรค์น้อย สพป.แม่ฮ่องสอน เขต 2 โรงเรียนบ้านนาพง สพป.สุโขทัย เขต 2 โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี สพป.เพชรบุรี เขต 1 โรงเรียนอนุบาลวังเหนือ สพป.ลำปาง เขต 3 และโรงเรียนวัดทุ่งสว่าง สพป.นครราชสีมา เขต 1 (2) ระดับขยายโอกาสทางการศึกษา จำนวน 6 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัดลาดสนุ่น สพป.ปทุมธานี เขต 2 โรงเรียนบ้านโคกนาโก สพป.ยโสธร เขต 2 โรงเรียนบ้านโนนเมือง สพป.หนองบัวลำภู เขต 2 โรงเรียนบ้านม่วงเตี้ย สพป.ปัตตานี เขต 2 โรงเรียนบ้านละลม สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 และโรงเรียนบ้านเพียแก้ว สพป.บุรีรัมย์ เขต 4 (3) ระดับมัธยมศึกษา จำนวน 7 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 สพม.เขต 11 โรงเรียนเบญจมานุสรณ์ สพม.เขต 17 โรงเรียนรัตนบุรี สพม.เขต 33 โรงเรียนพิริยาลัยจังหวัดแพร่ สพม.เขต 37 โรงเรียนห้วยกรดวิทยา สพม.เขต 5 โรงเรียนนาโพธิ์พิทยาสรรพ์ สพม.เขต 26 และโรงเรียนหนองโสนพิทยาคม สพม.เขต 41 ซึ่งการคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้: Active Learning เป็นกิจกรรมหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ดังที่ นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2559 เกี่ยวกับนโยบาย ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจความหมายที่แท้จริงว่า “…การลดเวลาที่นักเรียนเรียนแบบ Passive คือ เป็นผู้รับอย่างเดียวลง แล้วเพิ่มเวลาที่นักเรียน เรียนรู้แบบ Active ให้มากขึ้น คือ เป็นผู้ปฏิบัติเอง เรียนรู้เอง ให้มากยิ่งขึ้นซึ่งเกิดขึ้นได้ ทั้งในห้องเรียน และนอกห้องเรียน…” เพื่อเป็นแบบอย่างในการดำเนินงานให้กับโรงเรียนทั่วไปต่อไป