480086011751261174
Uncategorized
ประชาสัมพันธ์โครงการ T3 Impact Program
📝♻️ ประชาสัมพันธ์โครงการ T3 Impact Program
โครงการอบรมครูออนไลน์ “T3 Impact Program” เป็นโครงการที่ดำเนินการโดยบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับที่ปรึกษา บริษัท วี เทค คอนซัลติ้ง จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการพลาสติกประเภท PET รวมถึงกระบวนการรีไซเคิลและการจัดการสิ่งแวดล้อมในสถานศึกษา แก่ครูในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมในการบริหารจัดการขยะ/พลาสติก PET ภายในสถานศึกษา📚
📌วัตถุประสงค์ของกิจกรรม
🔹เพื่อเสริมสร้างความรู้การคัดแยกขยะ และการจัดการขยะ/พลาสติก PET ที่ถูกต้องให้กับครูในโรงเรียน
🔹เพื่อฝึกทักษะการออกแบบโครงการจัดการขยะในโรงเรียนให้ครูในโรงเรียน
🔹เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือของโรงเรียนและครูในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
✨สิ่งที่ครูจะได้รับจากโครงการ
🔹ความรู้ ทักษะการคัดแยกขยะและจัดการพลาสติก PET อย่างถูกต้อง
🔹เทคนิคใช้ AI และปรับพฤติกรรมด้านสิ่งแวดล้อมด้วย Nudge Theory ในการออกแบบการเรียนการสอน
🔹เครื่องมือ เช่น สื่อและคู่มือการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม จากบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)
🔹เป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายครูผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม
🔹เกียรติบัตรรับรองการเข้าร่วมโครงการ
⬇️เงื่อนไขการรับเกียรติบัตรรับรองการเข้าร่วมโครงการ
🔹เข้าร่วมกิจกรรมการอบรมในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2568 ในรูปแบบออนไลน์โปรแกรม Zoom Cloud Meetings
🔹เข้าร่วมกิจกรรม PLC แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับเครือข่ายครูผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมอย่างน้อย 1 ครั้ง ในรูปแบบออนไลน์โปรแกรม Zoom Cloud Meetings
🌏💚มาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการง่าย ๆ ได้ที่ Link: https://bit.ly/Register_T หรือสแกน QR Code ในภาพ
และติดต่อโครงการได้ที่ Facebook Page : WE Tech Consulting
หรือ นางสาวฐาปนีย์ เจริญสุข
โทรศัพท์: 09-8524-9494
Email: tapanee@wetechconsulting.co

อุปทูตจีนชื่นชมโครงการ LORD OBEC ของ สนก. พร้อมยก TSEC เป็นกลไกสำคัญสู่อนาคตการศึกษาไทย-จีน ในวาระ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต

การสอบ TSEC (Thailand Student Selection Exam for Chinese University) ครั้งที่ 1/2568 จัดขึ้นโดย โครงการ LORD OBEC ภายใต้สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สพฐ. ณ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีผู้สมัครสอบจากทั่วประเทศ 342 คน ซึ่งสะท้อนถึงความนิยมและความสำคัญของการสอบ TSEC ในฐานะกลไกสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักเรียนไทยได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน


ท่าน อุปทูตฝ่ายการศึกษา เหว่ยเจิน หลิน (Ms. Weizhen Lin) จากสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้ให้เกียรติเยี่ยมชมสนามสอบและกล่าวชื่นชมโครงการ LORD OBEC ว่ามีมาตรฐานสูงและโปร่งใส พร้อมระบุว่า TSEC กำลังก้าวสู่การเป็นระบบคัดเลือกนักศึกษาไทยระดับชาติสำหรับการศึกษาต่อในจีน และอาจได้รับการยอมรับให้เป็นช่องทางหลักสำหรับการส่งนักศึกษาไทยไปยังมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน

การสอบ TSEC ได้รับการออกแบบให้เป็นระบบคัดเลือกที่ โปร่งใสและมีมาตรฐานระดับสากล โดยแบ่งออกเป็น 2 รอบ ได้แก่
ข้อเขียน (ช่วงเช้า): วัดศักยภาพทางวิชาการ มีผู้สอบผ่าน 143 คน
สัมภาษณ์ (ช่วงบ่าย): ประเมินทัศนคติ ความสามารถในการสื่อสาร และความพร้อมศึกษาต่อในจีน
ผลการสอบได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการในเวลา 20.00 น. โดยนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกได้รับ โอกาสศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน พร้อมทุนการศึกษาจำนวนมาก

ผลการคัดเลือกทุนการศึกษา ประจำปี 2568
China University of Petroleum, Beijing (CUPB) มีนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกทั้งหมด 60 คน
• ทุนประเภทที่ 1 (17 คน): ครอบคลุม ค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน, ค่าที่พักภายในมหาวิทยาลัย, ค่าประกันสุขภาพ และ ค่าครองชีพเดือนละ 2,500 หยวน (ประมาณ 12,500 บาท)
• ทุนประเภทที่ 2 (13 คน): ครอบคลุม ค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน, ค่าที่พัก, และ ค่าประกันสุขภาพ
• ผ่านการคัดเลือกแต่ต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาทุน (30 คน)
Beihang University มีนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกทั้งหมด 64 คน
• ทุนประเภทที่ 1 (10 คน): ครอบคลุม ค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน, ค่าที่พัก, ค่าประกันสุขภาพ, และ ค่าครองชีพระหว่าง 1,500 – 2,500 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 7,500 – 12,500 บาท)
• ผ่านการคัดเลือกแต่ต้องรอพิจารณาทุนเพิ่มเติมหลังส่งเอกสาร (32 คน): ทุนแบ่งออกเป็นระดับ 100%, 80%, และ 50% ของค่าเล่าเรียนต่อปี
• ผ่านการคัดเลือกแต่ไม่ได้รับทุน (22 คน)
Harbin Engineering University (HEU) นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกทั้งหมด 48 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการลงนามรับรองจำนวนและประเภททุนที่ได้รับ
การสอบ TSEC ในปีนี้จัดขึ้น ในวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน โดยได้รับความร่วมมือจาก BRCC (Belt and Road Chinese Center, Thailand) และมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน ทั้งนี้ TSEC ไม่เพียงเป็นช่องทางสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนไทย แต่ยังเป็นกลไกสำคัญที่สะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยในการพัฒนาระบบการศึกษาที่มีมาตรฐานระดับโลก
โครงการ LORD OBEC มีแผน ขยายผล TSEC ให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้างและผลักดันให้เป็นมาตรฐานกลางในการคัดเลือกนักศึกษาไทย-จีนในระดับภูมิภาค ซึ่งเป็น ก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือทางการศึกษาและเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนในอนาคต
การอบรมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน รุ่นที่ ๒
สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษาร่วมกับสถานบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนรุ่นที่ ๒ โดยเป็นการอบรมครูทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในวันที่ ๒๔ – ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ณ โรงแรมปริ้นซ์ตั้น กรุงเทพมหานคร
ซึ่งในการอบรมดังกล่าวได้รับเกียรจาก ดร.ภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นประธานในพิธีเปิด
และนางสาวพรรัตน์ เพชรภักดี รักษาการผู้อำนวยการ สภาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อมสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวรายงาน และให้ข้อแนะนำกับครูที่เข้าร่วมการอบรมทั้ง 300 คน
สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมเป็นวิทยากรในการอบรมครั้งนี้ และมีครูผู้เข้าร่วมการอบรมเป็นจำนวน 300 คน โดยทั้ง 3 วันจะมีโครงสร้างหลักสูตรประกอบไปด้วย 4 Module ได้แก่
Module 1 รอบรู้สถานการณ์ขยะและบรรจุภัณฑ์
* สถานการณ์ขยะ
* ผลกระทบจากปัญหาขยะและบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว
* นโยบายการจัดการปัญหาขยะและบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว
Module 2 ความรู้เรื่องบรรจุภัณฑ์และการจัดการ
* รอบรู้เรื่องบรรจุภัณฑ์
* ประเภทของบรรจุภัณฑ์
Module 3 แนวคิดเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
* บรรจุภัณฑ์กับการบริโภคอย่างยั่งยืน
* มาตรการและเครื่องมือในการจัดการขยะ
Module 4 กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การนำสู่ชั้นเรียน
กลุ่มโครงการพิเศษ (Special Project Unit)
สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สนก.
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : Facebook คพศ. สนก.
ประกาศผลการประกวดสปอตโทรทัศน์รณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน รอบตัดสิน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมกับสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม (TIPMSE) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการประกวดสปอตโทรทัศน์รณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ในหัวข้อ “ปลูกต้นกล้าความคิด เพื่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวกล้อมที่ยั่งยืน” โดยการประกวดแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
2. ระดับชั้นมัธยมศึกษษปีที่ 1 – 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธบมศึกษา และโรงเรียนขยายโอกาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
3. ระดับชั้นมัธยมศึกษษปีที่ 1 – 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธบมศึกษา และโรงเรียนขยายโอกาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ซึ่งการประกวดสปอตโทรทัศน์รณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน รอบตัดสิน เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
รางวัลชนะเลิศโรงเรียนสามัคคีร่วมจิต
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 1 โรงเรียนบ้านแพะกลาง
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 2 โรงเรียนบ้านบาดูปูเต๊ะ
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธบมศึกษา และโรงเรียนขยายโอกาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
รางวัลชนะเลิศ โรงเรียนบ้านนาแก้วประชารัฐ
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 1 โรงเรียนวัดประชาบำรุงกิจ
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 2 โรงเรียนปากเกร็ด
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธบมศึกษา และโรงเรียนขยายโอกาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
รางวัลชนะเลิศ โรงเรียนบ้านชีวิทยา
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 1 โรงเรียนบ้านปากเกร็ด
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 2 โรงเรียนคีรีราษฎร์พัฒนา
เอกสารรายละเอียดผลการประกวด
ว1281 31-07-67
กลุ่มโครงการพิเศษ (Special Project Unit)
สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สนก.
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : Facebook คพศ. สนก.
ผู้แทนนักเรียนไทยคว้า 7 รางวัล 26 เหรียญ การแข่งขันคณิตศาสตร์โลก ระดับประถมศึกษา ปี 2567 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง
วันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มอบหมายให้ นางสาวรัตนา แสงบัวเผื่อน ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ร่วมต้อนรับและแสดงความยินดีกับคณะตัวแทนนักเรียนไทยที่ได้รับรางวัลในการแข่งขันคณิตศาสตร์โลกระดับประถมศึกษา ประจำปี พ.ศ. 2567 : Po Leung Kuk Primary Mathematics World Contest 2024 (PMWC 2024) ระหว่างวันที่ 14 – 19 กรกฎาคม 2567 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีผู้แทนนักเรียนไทยเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 3 ทีม ทีมละ 4 คน รวมทั้งสิ้น 12 คน
นางสาวรัตนา กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ส่งผู้แทนนักเรียนไทยที่มีความสามารถด้านคณิตศาสตร์เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันคณิตศาสตร์โลกระดับประถมศึกษา ประจำปี พ.ศ. 2567 : Po Leung Kuk Primary Mathematics World Contest 2024 (PMWC 2024) ระหว่างวันที่ 14-19 กรกฎาคม 2567 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีนักเรียนระดับประถมศึกษาจาก 12 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน
ผลการแข่งขันปรากฎว่า นักเรียนไทยสามารถคว้ารางวัล รวมทั้งสิ้น 24 เหรียญ แบ่งเป็น 3 ทีม ได้แก่ ทีม A, B
และ C จำนวน 3 รางวัล 12 เหรียญ ประเภทกลุ่มบุคคล 1 รางวัล ประเภทเดี่ยว 11 รางวัล 3 เหรียญทอง
3 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง
ประเภททีม ทีมละ 4 คน รวมจำนวน 12 เหรียญ
เหรียญทอง 1 รางวัล ได้แก่ ทีม B ประกอบด้วย
- เด็กชายวรินทร เทพมังกร โรงเรียนอนุบาลวัดนางใน (ละเอียดอุปถัมภ์)
- เด็กชายปุณณพัชร์ ลักษณ์สุวงศ์ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- เด็กชายศรณปรัชญ์ ศิริอักษร โรงเรียนแสงทองวิทยา
- เด็กชายอภิชภัทร อรุณวิราม โรงเรียนกรพิทักษ์ศึกษา
เหรียญทองแดง 1 รางวัล ได้แก่ ทีม C ประกอบด้วย
- เด็กชายปริญ ส่งศรี โรงเรียนอนุบาลกระบี่
- เด็กชายกิตติยะ มณีรัตน์ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏระนครศรีอยุธยา
- เด็กชายวิชสิทธิ์ วิรัชศิลป์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
- เด็กชายปริญญา สิงห์กัญญา โรงเรียนแสงทองวิทยา
ชมเชย 1 รางวัล ได้แก่ ทีม A ประกอบด้วย
- เด็กชายดลภวัต ศิริชัย โรงเรียนอนุบาลนครปฐม
- เด็กชายอนวัช เจียรจรูญศรี โรงเรียนอนุบาลวัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์
- เด็กชายพรภวิษย์ สิทธิสาร โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรณประสานมิตร
- เด็กหญิงวรฤทัย คงนคร โรงเรียนบูรณะรำลึก
ประเภทกลุ่มบุคคล
รางวัลชมเชย 1 รางวัล ประกอบด้วย
- เด็กชายปริญ ส่งศรี โรงเรียนอนุบาลกระบี่
- เด็กชายกิตติยะ มณีรัตน์ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏระนครศรีอยุธยา
- เด็กชายวิชสิทธิ์ วิรัชศิลป์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
- เด็กชายปริญญา สิงห์กัญญา โรงเรียนแสงทองวิทยา
ประเภทเดี่ยว รวม 12 เหรียญ
เหรียญทอง 3 รางวัล ประกอบด้วย
- เด็กชายศรณปรัชญ์ ศิริอักษร โรงเรียนแสงทองวิทยา
- เด็กชายกิตติยะ มณีรัตน์ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏระนครศรีอยุธยา
- เด็กชายปริญญา สิงห์กัญญา โรงเรียนแสงทองวิทยา
เหรียญเงิน 3 รางวัล ประกอบด้วย
- เด็กชายปุณณพัชร์ ลักษณ์สุวงศ์ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- เด็กชายอนวัช เจียรจรูญศรี โรงเรียนอนุบาลวัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์
- เด็กหญิงวรฤทัย คงนคร โรงเรียนบูรณะรำลึก
เหรียญทองแดง 4 รางวัล ประกอบด้วย
- เด็กชายพรภวิษย์ สิทธิสาร โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรณประสานมิตร
- เด็กชายวรินทร เทพมังกร โรงเรียนอนุบาลวัดนางใน (ละเอียดอุปถัมภ์)
- เด็กชายดลภวัต ศิริชัย โรงเรียนอนุบาลนครปฐม
- เด็กชายอภิชภัทร อรุณวิราม โรงเรียนกรพิทักษ์ศึกษา
รางวัลชมเชย 2 รางวัล ประกอบด้วย
- เด็กชายปริญ ส่งศรี โรงเรียนอนุบาลกระบี่
- เด็กชายวิชสิทธิ์ วิรัชศิลป์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
กิจกรรมมอบเกียรติบัตรโครงการกล่องนมรักษ์โลกปี 3
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสถาบันการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม (TIPMSE) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยร่วมกับผลิตภัณฑ์ไมโล บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด และบริษัท เต๊ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ได้ดำเนินโครงการกล่องนมรักษ์โลก (Careton กล่องนมรักษ์โลก) โดยปีนี้เป็นปีที่ 3 ซึ่งโครงการ ฯ ได้มีการสร้างองค์คสามรู้คัดแยกกล่องเครื่องคื่มตั้งแต่ต้นทางพร้อมทั้งเก็บข้อมูลปริมาณกล่องเครื่องคื่มที่รวบรวมได้ โดยโครงการได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดื่อนกรกฎาคม 2566 – มาจนถึงปัจจุบันระยะเวลา 11 เดือนโดยมีการนำร่องโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร จำนวน 52 แห่ง และโรงเรียนในสังกัด สพฐ. 10 แห่ง
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ณ ห้องประชุมอาคาร สพฐ. 4 ชั้นที่ 2 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ นางสาวรัตนา แสงบัวเผื่อน ร่วมเป็นเกียรติมอบรางวัลพิเศษแก่ครูและโรงเรียนยอดเยี่ยมที่มีส่วนร่วมในการผลักดันโครงการกล่องนมรักษ์โลก ปี 3
กลุ่มโครงการพิเศษ (Special Project Unit)
สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สนก.
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : Facebook คพศ. สนก.
การอบรมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน รุ่นที่ 1
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา
ร่วมกับสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดการอบรมปฏิบัติการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน รุ่นที่1อบรมครูทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
ในวันที่ 26 – 28 มิถุนายน 2567 ณ โรงแรมบียอนด์ สวีท กรุงเทพมหานคร
โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานในพิธีเปิด
และนางสาวพรรรัตน์ เพชรภักดี รักษาการผู้อำนวยใหญ่ และรักษาการผู้อำนวยการ สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวรายงาน และให้ข้อแนะนำกับครูเข้าร่วมการอบรม
โดยการอบรมปฏิบัติการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน รุ่นที่1มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาบุคลากร สพฐ. ให้มีความรู้ ความเข้าใจแนวคิดการผลิตและบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการจัดการบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และนำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมบูรณาการกับการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน ขยายผลสู่นักเรียนต่อไป ทั้งนี้การอบรมในครั้งนี้จัดขึ้นในวันที่ 26 – 28 มิถุนายน 2567 ซึ่งได้รับเกียรติ จากสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม (TIPMSE) สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย
สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.)
และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมเป็นวิทยากรในการอบรมครั้งนี้ และมีครูผู้เข้าร่วมการอบรมเป็นจำนวน 715 คน โดยทั้ง 3 วันจะมีโครงสร้างหลักสูตรประกอบไปด้วย 4 ส่วน คือ
Module 1 รอบรู้สถานการณ์ขยะและบรรจุภัณฑ์
– สถานการณ์ขยะ
– ผลกระทบจากปัญหาขยะและบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว
– นโยบายการจัดการปัญหาขยะและบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว
Module 2 ความรู้เรื่องบรรจุภัณฑ์และการจัดการ
– รอบรู้เรื่องบรรจุภัณฑ์
– ประเภทของบรรจุภัณฑ์
Module 3 แนวคิดเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
– บรรจุภัณฑ์กับการบริโภคอย่างยั่งยืน
– มาตรการและเครื่องมือในการจัดการขยะ
Module 4 กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการนำสู่ชั้นเรียน
กลุ่มโครงการพิเศษ (Special Project Unit)
สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สนก.
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : Facebook คพศ. สนก.
กลุ่มโครงการพิเศษเดินทางลงพื้นที่เก็บข้อมูลการดำเนินงานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสีเขียวที่ยั่งยืน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำเนินกิจกรรมสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสีเขียวที่ยั่งยืน
เพื่อส่งเสริมให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพัฒนาหน่วยงานที่มีการดำเนินงาน ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทุกมิติ ทั้งด้านการใช้ทรัพยากร พลังงาน การจัดการของเสีย สภาพแวดล้อม และความปลอดภัยจึงได้จัดทำร่างคู่มือการดำเนินงานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสีเขียวที่ยั่งยืน กลุ่มโครงการพิเศษและคณะทำงาน ร่วมลงพื้นที่ติดตามและรวบรวมข้อมูล ผลการดำเนินงานกิจกรรมสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสีเขียวที่ยั่งยืน พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงานมายังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่มีการทดลองใช้คู่มือฯ ได้แก่
๑. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๒
๒. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๓
๓. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๑
๔. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพชรบุรี
ผู้เขียน นายประเวช อุ่มผาง
กลุ่มโครงการพิเศษ (Special Project Unit)
สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สนก.
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : Facebook คพศ. สนก.
สพฐ. ร่วมกับองค์กรเครือข่ายทางการศึกษา ร่วมประชุมถอดบทเรียน “แนวทางการขยายผลนวัตกรรมเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการต่อยอดทางการศึกษาจากประเทศไทยสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน (OBEC One Belt One Road
เมื่อวันอังคารที่ 4 มิถุนายน 2567 สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษาจัดการประชุม “สพฐ. ร่วมกับองค์กรเครือข่ายทางการศึกษา ร่วมประชุมถอดบทเรียน “แนวทางการขยายผลนวัตกรรมเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการต่อยอดทางการศึกษาจากประเทศไทยสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน (OBEC One Belt One Road” โดยมี ดร.ฐาปณัฐ อุดมศรี รองผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้นำทีมเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโครงการพัฒนานวัตกรรมการยกระดับเครือข่ายองค์กรแห่งการเรียนรู้สู่การเสริมสร้างศักยภาพและต่อยอดเยาวชนไทยในระดับสากล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้แก่ 1) นางสาวปุณณภาเทพทุมมี นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ 2) นายธัญญภัสร์ จำเริญบุญ เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการ 3) นายณัฐศาสตร์ ส่องแสง เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการ 4) นายสหรัถ อินทรีย์เขียว เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการ 5) นางสาวสุภาพร ทองร้อยชั่ง เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการ พร้อมทั้งมีองค์กรแห่งการเรียนรู้ MalishaEdu Thailand เป็นตัวแทนภาคเอกชนและสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำจากสาธารณรัฐประชาชนจีน
ที่เข้าร่วมการประชุมและขับเคลื่อนภารกิจงานในครั้งนี้ ณ อาคาร สพฐ. 5 ชั้น 9 ห้องประชุมที่ 2 กระทรวงศึกษาธิการ
“การอบรมเชิงปฏิบัติการนำร่องนวัตกรรมเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการต่อยอดทางการศึกษาจากประเทศไทยสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน (OBEC One Belt One Road)” เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการพัฒนานวัตกรรมการยกระดับเครือข่ายองค์กรแห่งการเรียนรู้สู่การเสริมสร้างศักยภาพและต่อยอดเยาวชนไทยในระดับสากล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ จัดขึ้นด้วยความร่วมมือของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน บริษัท MalishaEdu Thailand และสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำจากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือทางการศึกษาระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ของประเทศไทย และสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการจัดกิจกรรมการพัฒนาและเตรียมความพร้อมนักเรียนไทยเพื่อการสมัครเข้ามหาวิทยาลัย และการขอทุนการศึกษา โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีกลุ่มเป้าหมายได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากประเทศไทย และประเทศลาว ที่มีความสนใจจะไปศึกษาต่อ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีนักเรียนสมัครเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น กว่า 300 คน
การประชุมถอดบทเรียนสำคัญภายในงานวันดังกล่าวประกอบด้วย การเรียนรู้และการฝึกปฏิบัติเขียน Study Plan เพื่อสมัครเข้ามหาวิทยาลัย และขอทุนการศึกษาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน กิจกรรมแนะแนวการศึกษา ให้คำชี้แนะ และทดลองการสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัย โดยผู้แทนมหาวิทยาลัยชั้นนำ จากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวนมากกว่า 20 แห่ง และกิจกรรมการให้คำปรึกษา และการเตรียมความพร้อมในการศึกษาต่อ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดย MalishaEdu Thailand เพื่อต้องการให้นักเรียน สพฐ. ได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในต่างประเทศ เป็นการพัฒนาศักยภาพของนักเรียน
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งภายในงาน ได้แก่ การเปิดตัวนวัตกรรมที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพของนักเรียน และสร้างโอกาสในการต่อยอดสู่ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพในระดับสากล ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือขององค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ที่ร่วมกันคิดค้น และพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นนวัตกรรมที่สามารถนำมาใช้ได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ พบว่า นวัตกรรมด้านหลักสูตรการอบรม เป็นนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนในปี พ.ศ. 2566 เกิดประโยชน์กับนักเรียนและครูเป็นอย่างยิ่ง โดยมหาวิทยาลัยให้ข้อเสนอแนะในการขับเคลื่อนและขยายผลนวัตกรรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ในการประชุมได้ร่วมหารือแนวทางการขยายผลนวัตกรรมเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการต่อยอดทางการศึกษาจากประเทศไทยสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน (OBEC One Belt One Road) ที่คิดค้นขึ้นทั้ง 3 นวัตกรรม ดังนี้
1) TSEC : Thai Students Selection Exam for China University (นวัตกรรมด้านการวัดและประเมินผล) โดยกลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำ สาธารณรัฐประชาชนจีน จะดำเนินการยกสนามสอบคัดเลือกนักเรียนมาจัดขึ้นในประเทศไทย เพื่อสร้างโอกาสให้นักเรียนไทยในการเข้าถึงการสอบ และทุนการศึกษาอย่างทั่วถึง
2) Pathway Camp (นวัตกรรมด้านหลักสูตรการเรียนรู้) เป็นการเปลี่ยนโฉมหลักสูตรการเรียนระยะสั้นในต่างประเทศของนักเรียน ที่เคยจัดโดยมหาวิทยาลัย และบริษัทเอกชนต่าง ๆ ให้กลายเป็นการเรียนระยะสั้นที่มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ให้กับนักเรียน ด้วยการร่วมเรียนบางรายวิชาในชั้นเรียนจริง ของคณะ หรือสาขาที่นักเรียนสนใจ พร้อมโอกาสสำคัญในการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยในช่วงท้ายของการอบรมตามหลักสูตรโดยทางมหาวิทยาลัยจะดำเนินการจัดสอบ และพิจารณาเอกสาร Pre-Admission ให้กับนักเรียนที่ผ่านการสอบทันที
3) Preparation Program for Students and Teacher (นวัตกรรมด้านหลักสูตรการอบรม)
3.1) Integrated Training Program for Students นวัตกรรมหลักสูตรการอบรม
ที่บูรณาการกิจกรรมสำคัญ 2 กิจกรรม ได้แก่ (1) กิจกรรมการพัฒนานักเรียน (Preparation Program) ในด้านที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมความพร้อมนักเรียน ตัวอย่างเช่น ความรู้และทักษะทางภาษา การเขียนเอกสารประกอบการขอทุน เป็นต้น โดยบูรณาการเข้ากับ (2) กิจกรรมแนะแนวการศึกษาต่อ (Education Fair) ที่จะช่วยให้นักเรียนมีข้อมูลเกี่ยวกับบริบทของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง หลักสูตร การเรียนการสอน รวมถึงสภาพแวดล้อม ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่นักเรียนและผู้ปกครองจะนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจในการตั้งเป้าหมายการเรียนต่อไป
3.2) Teacher Training : Educational Pathways in China (นวัตกรรมด้านหลักสูตร
การอบรม) ที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้มีหน้าที่หลักในการแนะแนวนักเรียน หรือมีความประสงค์เป็นผู้ให้คำปรึกษานักเรียนที่สนใจที่จะไปศึกษาต่อในประเทศต่าง ๆ โดยหลักสูตรนี้จะมีเนื้อหาครอบคลุมในทุกมิติ ยกตัวอย่างเช่น บริบทการศึกษาของแต่ละประเทศ สถาบันการศึกษาและสาขาที่น่าสนใจ สภาพแวดล้อม การตั้งเป้าหมายในการเรียน การเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ นวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นภายใต้โครงการจำถูกนำไปขยายผลในโรงเรียนสังกัด สพฐ. อย่างกว้างขวางในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยความร่วมมือในการสนันสนุนและส่งเสริมโครงการอย่างเป็นรูปธรรมจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน Belt & Road Chinese Center (BRCC) และ MalishaEDU Thailand อย่างเข้มแข็ง ต่อเนื่อง และยั่งยืน
สนก. ร่วมมือองค์กรแห่งการเรียนรู้เครือข่ายจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาทักษะทางภาษา และเตรียมความพร้อมนักเรียนเพื่อการต่อยอดด้านการศึกษาและการประกอบอาชีพในระดับสากล ประจำปี 2567 ทั้ง 4 ภูมิภาค
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา (สนก.) ดำเนินงานโครงการพัฒนานวัตกรรมการยกระดับเครือข่ายองค์กรแห่งการเรียนรู้สู่การเสริมสร้างศักยภาพและต่อยอดเยาวชนไทยในระดับสากล (LORD OBEC) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายองค์กรแห่งการเรียนรู้ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติและระดับนานาชาติ ที่มุ่งเน้น
การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการศึกษา ซึ่งช่วยให้เกิดการต่อยอดด้านการศึกษา และการสร้างเส้นทางอาชีพที่เหมาะสม สำหรับผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ ผ่านการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานการศึกษาชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ เพื่อการยกระดับคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ให้มีศักยภาพ และมีสมรรถนะสอดคล้องกับความต้องการของสังคมโลก
ในการนี้ กลุ่มวิจัยและพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้ ได้จัดกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาทักษะทางภาษา และเตรียมความพร้อมนักเรียนเพื่อการต่อยอดด้านการศึกษาและการประกอบอาชีพในระดับสากล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ระดับภูมิภาค ภายใต้แผนงานของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระหว่างวันที่ 17 – 25 กุมภาพันธ์ 2567 กำหนดการ ดังนี้
จุดที่ 1 ภาคกลาง ในวันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงแรมเอวาน่า แกรนด์คอนเวนชันกรุงเทพมหานคร
จุดที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงแรมสยามแกรนด์ จังหวัดอุดรธานี
จุดที่ 3 ภาคใต้ ในวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงแรมบีพีแกรนด์ทาวเวอร์อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
จุดที่ 4 ภาคเหนือ ในวันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงแรมคุ้มภูคำ จังหวัดเชียงใหม่
ผู้เข้ารับการอบรมฯ ได้แก่ นักเรียนที่มีความสนใจภาษาจีน ภูมิภาคละ 100 คน และภาษาอังกฤษ ภูมิภาคละ 100 คน จำนวน 4 ภูมิภาค รวมทั้งสิ้น 800 คน โดยกิจกรรม ภายในงานประกอบด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับ ความสำคัญของการพัฒนาทักษะภาษาจีน การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ เทคนิคการสอบ HSK เทคนิคการสอบ IELTS เทคนิคการเขียนเรียงความเพื่อขอรับทุนการศึกษา เป็นต้น
โดยผลการตอบรับจากนักเรียนทั้ง 4 ภูมิภาคเป็นไปอย่างดียิ่ง และมีความต้องการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจัดกิจกรรมเพื่อเด็กและเยาวชนเช่นนี้อีกในอนาคต